:::::::::: เลือก มือถือ Android on Oct 2015 ::::



 
       สำหรับ iPhone  มีไม่กี่รุ่น ชอบรุ่นไหนก็จ่ายเงินไป  ,  ส่วน Android มีผู้ผลิตหลายราย Asus, Acer, HTC, Huawei, LG, Lenvo, Samsung , Sony, และอื่นๆอีกมากกว่า
       ทำให้การเลือก มือถือพวก Android จึงมีรุ่นให้เลือกมากมาย  (Tablet android ก็คล้ายกัน)

       มือถือ โดยคร่าวแบ่งออกเป็น 4 รุ่นใหญ่ๆ (ผมแบ่งเองนะครับ)

       1. ระดับล่าง (Low End)  -- ราคา 3,000 -   8,900 บาท     มีแบ่งย่อยกันอีกเล็กน้อย
       2. ระดับกลาง (Mid End) -- ราคา 9,000 -  14,900  บาท  มีแบ่งย่อยกันอีกเล็กน้อย
       3. ระดับสูง (Hi End)       --  ราคา 15,000 - 20,000 บาท  มีแบ่งย่อยกันอีกเล็กน้อย
       4. ระดับสูง แบบพิเศษ    --   ราคา 21,000 - 28,000 บาท  มีแบ่งย่อยกันอีกเล็กน้อย
          ***** ให้สังเกตว่า ในแต่ละระดับ จะมี รุ่นย่อยให้เลือกกันอีก  โดยคร่าว จะราคาจะเพิ่มขึ้น 2,000-3,000 บาท  เช่น รุ่นต่ำสุด 3,000 บาท,  เอาดีขึ้นมา ก็จะ 4,000-,4,500,  เอาดีอีก ก็ 5,000 กว่า เป็นต้น   ฉะนั้นดูตามความเหมาะสม
         แต่หลายคนจะเลือกไม่ถูกว่า มากขนาดนี้เอาแบบไหนดี  ถ้าให้ผม ฟังธงเลยนะ  และใช้ไปอีกยาว หรือ ไม่มีปัญหามากวนใจละก็ ตามนี้เลย (ไม่ดูราคานะ)
         a.  CPU อย่างน้อย 4 Core , หรือ 6 Core ยิ่งดี --- Spec ของมือถือจะบอก หรือ คนขาย ก็จะบอกเลยละว่า ตัวนี้กี่ Core,   Core = หัวคน หรือ สมองคน แล้วกัน,  มีสมองมาก  ยิ่งดี
         b. Memory ในเครื่อง หรือ ที่ทุกคนจะได้ยินคนขายบอกว่า ความจุ เครื่องนี้ 8G (8กิ) หรือ 16G or 32G ----- ให้เอาแบบ 16G  ถึงแม้นจะแพงกว่า แต่ใช้งานแบบสบายใจ และใช้ได้ยาว
              คนขายชอบบอกว่า 8G ก็บอก ,  คุณผู้ชาย หรือ คุณผู้หญิง  ใช้งานไม่มาก ใช่เปล่า  ,  ใช้แต่ Line or Facebook, Twiter  ใช้เปล่า , ไม่เล่น game ใช่เปล่า , และ ไม่ชอบลงอะไรเพิ่ม ใช้เปล่า
              ก็จะบอกว่า 8G ก็พอ,    ผมฟังธง 16G เหมาะสมที่สุด
         c. RAM or Memory ในการใช้งาน ความจะ 2G อย่างน้อยนะ  เนื่องจากตัว Android ก็กินไปพอควรแล้ว  การมี 1G จะน้อยไป
         d. ส่วนปัจจัยอื่นๆ ขนาดหน้าจอ 5นิ้ว,  5.7นิ้ว,  จะเป็นจอ IPS LCD or Super AMOLED ก็แล้วแต่งบประมาณของเพื่อนแล้วกัน,  การใช้ SD Card ได้หรือไม่ ก็ตามใจ ---แต่มือใหม่ แนะนำ ไม่ต้อง
เนื่องจาก เพื่อนบ้างท่าน ชอบใช้ SD ราคาถูก หรือของจีน ที่ไม่มีคุณภาพ   มันจะส่งผลให้ เครื่อง ทำงาน ช้าลง หรือ มีอาการแปลก


       ปัจจัยที่ทำให้ ราคาแตกต่าง โดยประมาณคือ
       1. ชนิดของ CPU, จำนวน CPU และ ความเร็วของ CPU เช่น Snadagron 810  8 Core  ความเร็ว 2.5Ghz    ,  ตัว Snadagron 810 เป็นชนิด CPU ที่ดีที่สุดของค่าย เป็นต้น   ราคาก็แพง ตามตัว
            ดูคร่าว ก็ดูตัวเลขของมันได้ เช่น Snadagon 610  ก็ต่ำกว่า 810 อย่างมาก เป็นต้น
      2. GPU --- ตัวทำแบบ 3มิติ  ยิ่งดี และแรง  ก็แพง
      3. Memory or RAM ที่ใช้   เช่น 1G, 2G, 3G, 4G or 8G   เช่น Samsung Galaxy Note 5 มี RAM 4GB  เป็นต้น
      4. Memory ในเครื่อง หรือ ความจุในการเก็บข้อมูล เช่น 4G, 8G, 16G,32G, 64G, 128G เป็นต้น
อย่าง Samsung Galaxy Note 5 มี 32G,  Asus Zenfone 2 มี 64G (แอบชอบมากกว่า ราคา 12,900 เอง )
      5. ขนาดหน้าจอ เช่น 5นิ้ว และชนิดจอที่ใช้ เช่น Super AMOLED หรือเปล่า
      6. วัสดุที่ใช้ประกอบตัวเครื่อง
      ข้อ 1-4 จะมีผลต่อการผลิตค่อนข้างมาก (ต้นทุนการผลิต)  ทำให้ราคามือถือ แตกต่างกันไป

      เพื่อนคิดง่าย เหมือนรถ เลยก็ว่าได้  รถ Toyota or Honda ก็มีการแบ่งรุ่นออกเป็น 3 ระดับใหญ่
ในแต่ละระดับ ก็มีรุ่นย่อยให้เลือกอีก เป็นต้น

      สนุกกับการเลือก มือถือ นะครับ

      เห็นบทความน่าสนใจ จึงนำมาฝาก

http://droidsans.com/android-buyers-guide-oct-2015



::::::::: By Pairoj T. on 3 Oct 2015 ::::::at Bangkok, Thailand